ฤดูกาลของวงการ SBOBET กลับมาอีกครั้งแล้ว

เกมเมื่อคืน ต้องบอกว่าแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล กลับมาอยู่ในฟอร์มเก่งได้ทันเวลา การเอาชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดได้ 2-0 ถือว่าหงส์แดงทำได้ตามเป้าหมาย ในมุมของแชมป์เก่า เท่ากับว่าพวกเค้าอยู่ในเส้นทางไล่ล่าพื้นที่ UCL ต่อไปได้ แต่ว่าผู้แพ้ของเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เกมนี้ต้องยอมรับว่าเป็นเกมที่บอกลาพรีเมียร์ลีคแล้วแบบไม่เป็นทางการเท่าไรนัก แต่มองจากข้อมูล โอกาส ตารางแข่งขัน คงต้องบอกลาพวกเค้า 11 แต้ม เท่านั้น เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ตอนแรกที่ใครหลายคนมองว่าน่าจะกลับมาได้ แต่ก็ต้องยอมรับตามตรงว่า กู่ไม่กลับแล้วจริง ผลงานของพวกเค้าตอนนี้ มีเพียงแค่ 11 แต้มเท่านั้น สถิติการลงสนาม 25 เกม ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 20 เกม มองยังไงตอนนี้ก็ยังดีไม่พอสำหรับการอยู่รอดในพรีเมียร์ลีคไปได้ ไม่มีปาฏิหาริย์ หากมองตามสถิติได้บอกเอาไว้ว่า ถ้าหากจะอยู่รอดในพรีเมียร์ลีค ต้องมีคะแนนอย่างน้อยที่สุด 40 คะแนน ตอนนี้ เชฟฟิลด์ มีอยู่ 11 คะแนน เท่ากับว่าจะต้องหาอีก 29 …

ตอนนี้ แฟนบอลแมนยูคงมีความรู้สึกคล้ายกันว่า แม้ว่าจะผ่านเข้ารอบไปได้ ตามคาดแต่การหลุดไปเจอกับเซบีญ่า ทีมแกร่งจากสเปน ที่ถือว่าเป็นเต้ยในถ้วยใบนี้มาหลายซีซั่น เป็นอะไรที่ยาก และ เหนื่อยแน่นอน จนมีโอกาสตกรอบกลับบ้านสูง(หากดูจากฟอร์มเกมที่แล้ว) อย่างไรก็ตามเกมนี้ถือว่าเป็นจุดวัดความสามารถของโซลชาร์เหมือนกัน หากพวกเค้าจะต้องไปเล่น UCL อีกรอบหนึ่งในซีซั่นหน้า การเจอกับเซบีญ่าจะวัดเลยว่า แมนยูดีพอหรือยัง เรามาเดาใจกันว่า โซลชาร์ จะเตรียมทีมอย่างไร 4-4-2 หรือ 4-3-3 เรื่องแรกเป็นฟอร์เมชั่นของทีม แน่นอนว่าตอนนี้แมนยูมีฟอร์เมชั่นที่ถือว่าเป็นหลักอยู่สองอย่างด้วยกัน หนึ่งคือ 4-3-3 ที่ใช้ระบบการเปิดบอลจากปีกที่ลากเลื้อยเข้าไปทำประตู กับการแทงบอลทะลุมาจากบรูโน่ กับอีกฟอร์เมชั่นที่ถือว่าเป็นตำนานอย่าง 4-4-2 ที่เน้นการทะลุของปีก แล้วเปิดเข้าไปให้กองหน้าเข้าทำประตู ตรงนี้หากจะให้เดาเชื่อว่า โซลชาร์ น่าจะส่ง 4-3-3 มาแน่นอน พร้อมกับแท็คติคแบบเดิม ใครจะได้ลงสนาม เกมนี้แนวรับของทีมถือว่าเป็นตัวจริงเท่าที่มีอยู่ ขาดเพียงแค่ ลุค ชอว์ ที่บาดเจ็บ ส่วนผู้รักษาประตูเป็น โรเมโร่ เหมือนเดิม เกมหน้าเจอกับเซบีญ่า น่าจะเป็นจุดวัดใจของ โซลชาร์ ว่าเค้าจะทำอย่างไร ระหว่าง โรเมโร่ กับ เดเคอา …

ถ้าถามว่าซีซั่นที่รูดม่านปิดฉากลงไป พรีเมียร์ลีค ใครควรรับตำแหน่งม้ามืดแห่งปี เราตอบได้เลยว่า เวสต์แฮม แบบไม่ต้องคิดอะไรเลย เนื่องจากการจบอันดับ 6 ของตารางคะแนนได้ แถมบางช่วงยังดีพอจะท้าชิงอันดับสี่ จากคู่แข่งมากถึงห้าทีมด้วย ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ น่าเสียดายมากที่ทำไม่ได้ อย่างไรก็ตามต้องบอกเลยว่านักเตะของพวกเค้าหลายคนอยู่ในฟอร์มที่ดีมากจนทำให้ผลงานทีมมาดีด้วย ใครกันที่ควรจะเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของซีซั่น โทมัส ซูเช็ค การเข้ามาของ เดวิด มอยส์ ที่เวสต์แฮม แน่นอนว่ายุทธวิธีการเล่นของเค้าจะต้องหานักเตะที่ตรงสเปคกันมาด้วย นึกถึงมอยส์จะต้องมี เฟลไลนี่ แน่นอนว่าเค้าหาคนแบบนั้นได้อีกครั้งเป็น โทมัส ซูเช็ค ที่เล่นกลางได้แบบสมดุลยมากทั้งรุกรับ บนพื้น กลางอากาศ ทำได้หมด นั่นทำให้เค้ากลายเป็นนักเตะคนสำคัญและเป็นแกนหลักของทีมก็ว่ได้ ผลงาน 10 ประตู 1 แอสซิสต์ ในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับ ถือว่าสุดยอดเลย เจสซี่ ลินการ์ด เรามองว่าการยืม ลินการ์ด มาจากแมนยู บอกได้เลยว่าเป็นดีลยืมตัวหน้าหนาวที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีคซีซั่นนี้แบบไม่ต้องสงสัยเลย การมาของพระเจ้าลินการ์ด ทำให้การเล่นของเวสต์แฮมวูบวาบมาก เค้ากลายเป็นผู้บัญชาการเกมรุกของทีมอย่างแท้จริง ผลงานที่มาเพียงแค่ครึ่งซีซั่นยิงไป 9 ประตู ทำไป 4 แอสซิสต์ น่าเสียดายที่มีข่าวว่าเจ้าตัวไม่เลือกจะย้ายไปเวสต์แฮมแบบถาวร …

ในกลุ่มของทีมใหญ่ด้วยกัน เชื่อว่าแฟนแมนยู น่าจะเป็นกลุ่มเดียวที่หลับสบายตัวแบบไม่ต้องลุ้นอะไรให้เหนื่อย(มั้ง) หากดูผลสกอร์อย่างเดียวหลังเกม คงคิดแบบนั้น แต่ถ้าใครดูในเกมต้องบอกว่า มันเป็นอีกหนึ่งเกมที่เกร็งจิกพื้นกันแทบทั้งเกมเลย ว่ากันตามตรง ชนะนัดนี้ แมนยูเล่นดีก็จริง แต่นิวคาสเซิ่ลเองก็พลาดด้วย ภาพรวมนัดที่ 5 เป็นอย่างไร ก่อนเกมกับเรื่องราว ต้องยอมรับว่าก่อนจะเริ่มเกมนัดที่ 5 แมนยูเองประสบปัญหาอาการนักเตะไม่ฟิตเยอะ เนื่องจากล้ามาจากเกมทีมชาติ ไหนจะมีผลกระทบเรื่องสภาพจิตใจที่นักเตะหลายคนทำพลาดทำให้ทีมชาติตัวเองแพ้อีกด้วย แม้ว่าตอนหลังโค้ชทีมชาติของตัวเองจะบอกว่าไม่เกี่ยวก็ตามที ทำให้ก่อนเกมโซลชาร์เจอปัญหาหลายด้าน การจัดตัวที่ค้านสายตา จากปัญหาดังกล่าว ทำให้โซลชาร์ ไม่มีทางเลือกต้องจัดตัวเท่าที่สภาพทีมเอื้ออำนวย และ นักเตะที่ดีที่สุดทั้งสภาพร่างกายกับเข้าใจแท็คติค จะได้ลงสนาม ดูจากรายชื่อ ถือว่าค้านสายตาอยู่ในรายของ ฆวน มาต้า, เฟร็ด และ แม็คโทมิเนย์ ที่มาลงสนามซะอย่างนั้น แทนที่ตัวหลัก อย่างไรก็ตามกลายเป็นนักเตะที่ดูค้านสายตานี่แหละ ทำผลงานได้ดีกว่าพวกตัวหลักเสียอีก มาต้า แสดงให้เห็นถึงเซนส์บอลที่ทันกับ บรูโน่ เหมือนกัน ทางด้าน เฟร็ด กับ แม็คโท ไม่ต้องบอกเลยว่าความฟิตเต็มถัง วิ่งเล่น วิ่งไล่ บดไม่มีหมดทำให้แฟนบอลถึงกับยิ้มมุมปากในความขยันของสองคนนี้ ชนะจาก แท็คติคส์ โซลชาร์ …

เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี สำหรับอังกฤษ ที่ว่าดีใจก็เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีเลยที่พวกเค้ามาได้ไกลจนถึงรอบชิงชนะเลิศ หรือจะพูดให้ชัดนี่คือดีที่สุดหลังจากได้แชมป์โลกเมื่อปี 1966 แต่ว่าเสียใจด้วยที่แคมเปญที่ผุดขึ้นมาเชียร์อย่าง football is coming home มันไม่เกิดขึ้น เรามาเก็บตกอิตาลีกันหน่อยในฐานะผู้ชนะ หลังแก่แต่ได้เก๋า อิตาลีชุดนี้ ต้องยอมรับว่า หากนับตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม เค้าเปิดตัวได้อย่างสวยหรู ฟอร์มโหด ที่สำคัญเล่นแบบไม่ใช่อิตาลีเลย จุดหนึ่งที่ทำให้ทีมนี้นิ่งมากในเกมรับ น่าจะเป็นกองหลังสองคนอย่าง คิเอลลินี่ กับ โบนุชชี่ สองตัวเก๋าของทีมที่น่าจะสั่งลาทีมชาติทัวร์นาเมนต์นี้เป็นรายการสุดท้าย แม้ว่าจะช้ามากในบางจังหวะแต่ได้ลูกเก๋า กับประสบการณ์มาช่วย ทั้งแท็คติค และตุกติก จนทำให้นักเตะอังกฤษหลายคนไปไม่เป็น อย่างช็อตที่กระชากคอเสื้อ ซาก้า เอาไว้แล้วโดนเพียงแค่ใบเหลือง อันนี้ไม่เก๋าจริงทำไม่ได้เลย ค่อยๆนวดอย่างใจเย็น อิตาลี เริ่มต้นเกมนี้จากการเพลี่ยงพล้ำไปก่อน โดนนำ 1-0 จากลูกยิงของลุค ชอว์ แต่ว่าพวกเค้ากลับดูนิ่งกว่าเดิม ไม่มีหัวร้อน ไม่ลน ไม่ล่ก แต่อย่างใด พวกเค้าเลือกที่จะเล่นฟุตบอลอย่างใจเย็น แม้ว่าอังกฤษจะโหมบุกซ้ำหวังได้ประตูเพิ่ม แต่อิตาลี ก็นิ่งพอจะเพรสเข้าใส่ และต่อบอลชิ่งไปมาแบบไม่ร้อนรน นั่นทำให้พวกเค้ามาได้ประตูตีเสมอ พร้อมกับยันการโถมอีกรอบหนึ่งของอังกฤษจนยันเสมอไปได้ จุดโทษนิ่งกว่า สุดท้าย …

จะว่าไปเวลาผ่านไปเร็วมาก จำได้ว่าเพิ่งจะพูดถึงการเข้ารอบตกรอบแบ่งกลุ่มของศึก UCL ประจำซีซั่นนี้ไปไม่นาน ตอนนี้รอบ 16 ทีมสุดท้ายเดินทางมาถึงแล้วอย่างไวทีเดียว ซึ่งคราวนี้แบ่งเตะวันละ 2 คู่ เป็นจำนวน 4 วัน 2 สัปดาห์ เราไปดูกันว่าสัปดาห์แรก คู่ไหนน่าสนใจกันบ้าง ขอเน้นๆแค่ 2 คู่ก็แล้วกัน บาร์เซโลน่า กับ ปารีส แน่นอนว่าคู่แรกที่หยิบมา น่าจะเป็นรองคู่เอกของรอบนี้เลย (คู่เองกเราให้ แอต. มาดริด กับ เชลซี) ที่ว่าคู่นี้น่าสนใจประเด็นแรกต้องเป็นการมาเจอกันของพี่น้องในสนามฟุตบอลอย่าง พี่ลิโอเนล เมสซี่ ที่ตอนนี้ฟอร์มกลับมาเป็นคนเดิม ยิงประตูได้ตลอด บวกกับข่าวเรื่องย้ายที่ดูจะเงียบไปแล้ว มาเจอกับน้องรักคนเล็กอย่าง เนย์มาร์ ที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะได้ลงสนามหรือไม่ อาการบาดเจ็บยังอยู่ที่ 50-50 ถ้าหากลงสนามได้ก็น่าจะเป็นการเจอกันที่สนุกทีเดียว ปารีส บอกตามตรงอยู่ในสภาพที่ดีกว่าทั้งในเรื่องของนักเตะและความมั่นใจ เหมือนพวกเค้าอยากจะแก้มือลบฝันร้ายในซีซั่นก่อนให้ได้เสียที หากคิดจะไปถึงแชมป์ พวกเค้าต้องเอาชนะบาร์ซาให้ได้ หรืออย่างน้อยเกมแรกนี่ต้องเสมอแบบมีสกอร์เอาไว้ก่อน เพื่อเป็นจุดได้เปรียบในเกมสองที่เล่นในบ้าน ปอร์โต้ กับ ยูเวนตุส คืนวันที่ 18 ตามเวลาบ้านเรา …

ช่วงนี้ตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาว กลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนปิด เหล่าเอเยนต์ก็ใช้การ ปั่น ข่าวออกมาไม่เว้นแต่ละวันเพื่อผลักดันการย้ายให้เกิดขึ้นได้ ตำแหน่งกองหน้าเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่รายทีมอยากได้เพิ่มเพื่อเอาไปเพิ่มมิติในเกมรุกของทีม มีอยู่ชื่อหนึ่งตอนนี้ถือว่ากำลังร้อนแรงในตลาดเลยเค้าคือกองหน้าของเอซี มิลานนามว่า คริสตอฟ ปิออนเท็ค อายุยังน้อย ใช้งานได้นาน ก่อนอื่นเลยต้องมาว่ากันเรื่องอายุของนักเตะคนนี้เพียงแค่ 24 ปีเท่านั้นเอง ถือว่าน้อยมาก แถมฟอร์มการเล่นก็ถือว่าดีเลย การวิ่งหาตำแหน่ง พอได้ ความเร็วก็มี แต่ความคมอาจจะต้องพิจารณากันหน่อย อายุเพียงแค่นี้ทำให้การซื้อไปบ่มอีกหน่อยก็สุกขึ้นหม้อเป็นดาวยิงประจำทีมได้เลย ดูจากความสามารถของนักเตะแล้วไม่ต้องปรับตัวอะไรมากเท่าไรนัก แย่งตัวจริงจาก สลาตัน ไม่ได้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้เจ้าตัวอยากย้ายแล้วนั่นก็คือ ตอนนี้กองหน้าของทีมได้เซ็นตัวใหม่เข้ามา สลาตัน อิบราฮิโมวิช พอสลาตันเข้ามาก็ยึดตัวจริงได้ทันที แถมมีผลต่อการเล่นของเอซี มิลานอย่างมาก ส่งผลให้เจ้าตัวต้องลงไปนั่งสำรองอย่างช่วยไม่ได้ แล้วดูแนวโน้ม อาจจะสำรองแบบยาวๆเลยด้วย ทำให้เจ้าตัวไม่มีที่ว่างในการลงสนามหากอยากจะเล่นฟุตบอลต้องหาทางออกด้วยการไปเล่นทีมอื่นนั่นเอง สาเหตุนี้ทำให้หลายทีมคิดว่าตัวเองมีหวังจะได้ลายเซ็นนักเตะคนนี้มาร่วมทีมด้วยเหมือนกัน ราคา 35 ล้านปอนด์ จากข่าวที่ออกมา ทางเอซี มิลานประเมินราคาไว้ที่ 35 ล้านปอนด์ ถามว่าแพงไหมก็อาจจะแพงในมุมหนึ่ง แต่บอกเลยว่าราคาสมเหตุสมผลน่าลองมาก จากข่าวที่ออกมาเป็น แมนยู กับ สเปอร์ส อยากได้นักเตะคนนี้มาร่วมทีม หนึ่งในสองทีมนี้ถ้าใจกล้าหน่อย รับรองได้ชัวร์จะซื้อขาดทีเดียวหรือ …

ก่อนจะเขียนบทความนี้ สถานการณ์ของเมสซี่ กับ บาร์ซา ยังไม่สู้ดีนัก เพราะว่าเมสซี่กำลังแสดงอารยะขัดขืนไม่ยอมตรวจ ไม่ยอมซ้อม ทำให้ทุกอย่างมันดูแย่ลง อย่างไรก็ตามตลอดเส้นทางการค้าแข้งของเมสซี่ เค้าผ่านนักเตะมาเยอะมาก ตั้งแต่ดาวรุ่ง จนถึงระดับซุปตาร์ลูกหนังที่ทีมซื้อเข้ามาประกบกับเมสซี่เลยทีเดียว มีหลายคนที่แฟนบอลอาจจะลืมไปว่าเคยเล่นกับเมสซี่ด้วย เราขอมาย้อนวัยรำลึกกันหน่อย ซามูเอล เอโต้ คนแรกที่เชื่อว่า แฟนบอลอาจจะลืมไปแล้ว นั่นก็คือ ซามูเอล เอโต้ คนนี้ต้องบอกว่าเป็นยอดกองหน้าระดับโป้งปิดบัญชีเหมือนกัน ในกรอบเขตโทษยุคนั้นต้องให้เค้าเลย สองคนนี้เคยเล่นร่วมกันในปี 2004-2009 เล่นไป 199 นัด ทำไป 130 ประตู ต้องบอกว่าตอนนั้นทั้งคู่เล่นกันดีมาก เมสซี่จ่าย เอโต้ ปิดบัญชีจนฝ่ายตรงข้ามหวั่นเลยเอาจริงๆ เธียร์รี่ อองรี อีกหนึ่งคู่หูของเมสซี่ ที่เราอาจจะลืมไปแล้ว นั่นก็คือ เธียร์รี่ อองรี สุดยอดดาวยิงจากฝรั่งเศส คนนี้เล่นด้วยกันในช่วง 2007-2010 เล่นด้วยกัน 121 นัด ทำไป 49 ประตู การเข้ามาของอองรี เป็นที่คาดหวังของแฟนบอลว่าจะทำได้ดีเหมือนตอนเล่นให้กับอาร์เซนอล น่าเสียดายว่ามันตรงกันข้ามเลย เพราะว่าอาการบาดเจ็บรบกวนประจำ …